ทริปญี่ปุ่น..สมการสมดุลชีวิต

7 ตุลาคม 2016
เที่ยวต่างประเทศครั้งใด สิ่งที่ต้องเตรียมตัวให้ดีคือรองเท้าค่ะ
โดยเฉพาะเที่ยวกับพี่ออม คุณพี่จะพาเดิน เดิ๊น เดิน 
ออลล์เดย์ลอง หยุดเฉพาะทานข้าวเท่านั้น
บัตรรถไฟเหมาจ่ายรึ จะใช้คุ้มหรือไม่ ไม่สำคัญ
จะไปให้ครบทุกที่สถานที่สำคัญในทริปเดียวรึ ม่าย ไม่สำคัญค่ะ
Life is a journey, not a destination. เป็นธีมการท่องเที่ยวของพี่ออมและน้องเอเสมอ
(555 หัวเราะพร้อมแอบน้ำตาไหลเล็กๆ เพราะเดินกลางฝน
จนรองเท้าหัวเปิด เดินจนตุ่มน้ำที่นิ้วเท้าแข็งเป็นหิน )
ไกด์ออมของเราชอบการsurvey ภาพรวมของเมืองเป็นที่สุด
เพียงแต่เราไม่ได้เป็นลูกทัวร์ที่บินได้ เป็นเพียงคนเดินดินเท่านั้นเองค่า ฮือ

การเรียนรู้จากการมองเห็นวิถีชีวิต ต้นไม้ คนเดินถนน อาคารบ้านเรือน
เรียนรู้จากการสัมผัสรสอาหารใหม่ๆ ซดน้ำซุปต่างบ้านต่างเมือง
เรียนรู้จากการสูดลมหายใจ รับอากาศ รับพลังงานใหม่ๆรอบตัวเรา
เรียนรู้จากการชื่นชมและยอมรับชีวิตที่แตกต่าง
บางครั้งก็ทำให้ใจของเราตกผลึกแบบค่อยเป็นค่อยไป
ญี่ปุ่นช่างถือเป็นประเทศที่อะเมซิ่งมากๆ
โดยมีวิถีความคิดที่น่านับถือ ในเรื่องของความมุ่งมั่นที่สุด

Mindset อันนี้ถูกแสดงออกอย่างชัดเจนในการใช้ชีวิต
ในการทำงาน ในผังเมือง ในพื้นที่ใช้สอย ในทุกทุกอย่าง
••เมื่อจะมากต้องมากให้สุด เมื่อจะน้อยต้องน้อยให้สุด
ไม่มีคำว่าครึ่งๆ กลางๆ••
□พื้นที่พักอาศัย- ต้องเงียบสงบ สะอาด เป็นระเบียบ(อย่างมาก)
○พื้นที่ทำงาน- ที่ต้องสัมพันธ์กับผู้คน เสียงดังได้เต็มที่
ต้องมีของครบแทบจะล้นทุกความต้องการ แสงไฟเต็มที่
พนักงานต้อนรับ บริการ ส่งเสียงเชิญชวนเต็มที่ (อย่างมาก)และยังคงสะอาดมากเช่นกัน
♧พื้นที่ธรรมชาติ-เมื่อจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่ใช้เติมพลังชีวิตสำหรับผู้คน
ต้องสร้างและดูแลธรรมชาติให้ยิ่งใหญ่สุดๆ (อันนี้ชอบมาก)สร้างได้แม้กลางเมืองหลวง
♧ไม่ว่าจะเป็น Ueno Park ที่ปัจจุบัน คุณพี่สร้างวิวแสนเอ๊กโซติคอาร์ท 
ด้วยการปล่อยให้บัวในบึงใหญ่ยักษ์เกือบเท่าร่มขึ้นแน่นขนัดเต็มพื้นที่
หรือ♧ความอลังการเขียวครึ้มสุดของป่า 100 ปีที่สร้างขึ้นโดยคน
ที่บริเวณศาลเจ้าเมจิ ธรรมชาติที่อลังการสุดๆ
เพื่อรองรับความเครียดสุดๆของชาวเมืองนี้เช่นกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ ไปสุดทางจริงๆ ไม่แปลกใจที่คนไทยแห่แหนกันมาเที่ยว
มาเสพรสชาติความสดใหม่สุดๆของอาหาร
มาเสพพลังความทุ่มเทที่อยู่ในงานทุกอย่าง
มาเสพธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และเป็นเอกลักษณ์
มารับพลังความมุ่งมั่นที่เราขาดหาย

คนเราเกิดมาเก่งเท่าเทียมกัน
แต่ญี่ปุ่นมี Mindsetแห่งความตั้งใจ
เพียรพยายามและไปให้สุดทางที่ถูกฝึกกันตั้งแต่เด็ก
ทริปนี้จึงส่งแรงบันดาลใจเต็มพิกัด
ให้เรากลับมามุมานะแบบคนญี่ปุ่น
โฟกัสในเรื่องที่สำคัญ และมุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้น
ขณะกำลังจะโพกผ้าพันหัวทำงานอยู่นั้น 55

คุณเคอิ โฮสบ้าน airbnb ที่โตเกียว
ได้ส่ง emailตามเรามาจากประเทศญี่ปุ่นมีใจความว่า

"ขอบคุณมากที่ได้สอนผมหลายอย่างเกี่ยวกับเมืองไทย
มันทำให้ผมก็ได้คิดถึงสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับชีวิตของผมเองเช่นกัน
โดยทั่วไป คนญี่ปุ่นพูดเสมอว่าคนเราต้องโฟกัสในเรื่องใดเรื่องนึงของชีวิต
ไม่อย่างนั้นจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะประสบความสำเร็จ
ซึ่งผมก็เห็นด้วยในบางประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ในอีกทางนึง ผมก็มีความต้องการด้านอื่นของชีวิตด้วยไม่เพียงแต่เรื่องงาน
ผมยังอยากทำงานด้านอาสาสมัคร หรือการได้ออกเดินทางท่องเที่ยว
หรือการได้รักใครบางคน
การได้พบเจอคุณนั้นทำให้ผมรู้สึกถึงความเป็นไปได้
ที่จะทำอีกเรื่องสองเรื่องในชีวิต
คุณเป็นเจ้าของ Clay Shop เป็นนักลงทุนหุ้น
และ ยังมีเวลาได้ออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกันสองคน
นี่เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผมมากเลย
( คงหมายถึงสามารถทำหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน)
ผมคิดว่าผมคงจะได้เรียนรู้อีกหลายอย่างจากพวกคุณ
กรุณาติดต่อกันไว้และมีโอกาสเจอกันที่เมืองไทยนะครับ”

อืมม.อ่านแล้วก็ยิ้มไป
การใช้ชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่ได้ขาดสมดุลนี่นา
มีคนมองเห็นในสิ่งที่เราทำเหมือนกัน
สมการสมดุลชีวิตของใครก็ของคนนั้นนะคะ
และเมื่อเราชื่นชมผู้อื่น ก็จะมีผู้ชื่นชมเราตอบเช่นกัน
สมการสมดุลชีวิตที่เราสร้าง หากเรายังรู้สึกพร่องตรงไหน
เราก็พยายามเติมให้มันเข้มแข็ง แข็งแรง
แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมชื่นชมสิ่งที่เรามี และสิ่งที่เราเป็นด้วยนะคะ
ว่าแล้วเย็นนี้ก็กลับบ้านเร็วไปทำกับข้าวอร่อยๆหลังทำงานหนักทั้งวันดีกว่า
คนทำงานที่ญี่ปุ่นไม่มีคำว่ากลับบ้านเร็วน้า ^-^