บันทึกความรักต่อในหลวงรัชกาลที่9

บันทึกความรัก 24 ตุลาคม 2559
นั่งอ่านเรื่องราวของมหาบุรุษคนหนึ่ง
ผ่านข้อมูลที่ถูกส่งมาเป็นร้อยเป็นพันเรื่องในช่วงเวลาไม่กี่วัน
ย้อนภาพความทรงจำเก่าๆ ที่เคยพานพบ ที่เคยได้ยินที่เคยได้ฟัง
สมองของเราประมวลผล ในใจของเราครุ่นคิดพิจารณา และส่งคำถามออกมาว่า
ท่านเป็นซุปเปอร์แมนหรือเป็นยอดมนุษย์ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษเหนือคนธรรมดารึเปล่า
ทำไมถึงมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนโลก พลิกชะตาชีวิตผู้คนขนาดนี้
คำตอบคือ เปล่าเลย
ท่านไม่สามารถเนรมิตสิ่งของ ไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ดั่งใจ
ไม่มีตาวิเศษที่มองเห็นทะลุป่าเขาพงไพร ไม่มีคฑาวิเศษที่เสกเมฆเป็นฝน
หรือเสกดินแล้งให้กลายเป็นดินชุ่มน้ำ
ไม่มีอำนาจใดๆที่จะชุบชีวิตคนตายให้เป็นคนเป็นได้
ตัวช่วยอย่างเดียวที่ท่านมี คือการเกิดเป็นกษัตริย์..
แต่การเกิดเป็นกษัตริย์นั้นมิใช่ชาติภพแห่งการเสวยสุขหรอกหรือ
คำตอบของท่านคือไม่ใช่เลย
เราเกิดเป็นคนธรรมดา ไม่ว่าเศรษฐีหรือคนทั่วไป
ดูจะยังมีเวลาพักผ่อนสำราญเพื่อตัวเอง มากกว่าท่านหลายเท่านัก
แต่มหาบุรุษผู้นี้ใช้ทุกวินาทีแห่งการเกิดเป็นกษัตริย์เพื่อบำเพ็ญวิริยะบารมี
กินแค่เพื่อดำรงอยู่
อาหารที่โปรดก็ไม่อาจเรียกได้ว่าพิเศษ
นอนดึก นอนน้อย พักผ่อนเท่าที่จำเป็น เพราะคอยแต่จะทำงานเพื่อประชาชน
ท่านเริ่มงานช่วยเหลือราษฎรของท่านนับแต่ขึ้นครองราชย์ เมื่อ 70ปีที่แล้ว
พระราชดำรัสหนึ่งกล่าวไว้ว่า
.ฉันท้อไม่ได้ เดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน
เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ”
ท่านเดินทางออกสำรวจพื้นที่ทั่วทุกจังหวัด
ในขณะที่ประเทศเรายังไม่มีจานดาวเทียม
ไม่มีระบบกูเกิ้ลเอิร์ธ หรือกูเกิ้ลแมพ ที่พล็อตจุดได้ดั่งใจ
ท่านทำแผนที่เอง ทำแผนที่ประเทศไทย ใส่ข้อมูลทุกๆอย่าง รวมถึงชื่อหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ไกลหรือถูกหลงลืม
ระบุพื้นแห่งการไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้งว่า ต้องเป็นพื้นที่ “ซ่อนเร้น และแร้นแค้น”
เดินทางไปได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ เรือ และการเดินเท้าเท่านั้น
มาดูหลักการใช้เฮลิคอปเดอร์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่า ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงงานเอกสารไปด้วย จะทรงกริ้วมากถ้าพวกเราหลับ และ"ทรงรับสั่งว่าการได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งใช้น้ำมันจ่ายด้วยภาษีอากรของราษฎรก็เรียกว่าเป็นอภิสิทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทุ่มเทให้มากที่สุดเพื่อประชาชน จะนั่งฟังเสียงของเครื่องยนต์แล้วงีบหลับนั้นไม่ได้"
การเดินผ่านภูเขาเป็นร้อยๆลูก ผ่านห้วย ผ่านทุ่งนา ผ่านแม่น้ำ ลำธาร เหนือใต้ออกตก
ผ่านป่าดงพงไพร เพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร
ทั้งหมดไปด้วยตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งมีหลักฐานให้เห็นเป็นพันเป็นหมื่นภาพ
เพื่อจะช่วยเหลือ เพื่อจะดูแล เพื่อที่จะเป็นกำลังใจ ใครเจ็บป่วยส่งหมอ
ใครขาดอาชีพ ดูแลคิดวิธีทำกินให้ ใครขาดการศึกษา สร้างโรงเรียน ให้ทุนทรัพย์
การทำงานในห้องทำงาน ยังต้องคอยฟังวิทยุสื่อสารว่าใครประสบภัยที่ไหน ท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง
การมีหูทิพย์แบบผู้วิเศษของท่าน คือให้ รศ.ดร.สุธี อักษรกิตติ์
ผู้พัฒนาสายอากาศวิทยุที่สามารถรับ-ส่งสัญญาณระยะไกล ผลิตสายอากาศช่วยเครื่องวิทยุสื่อสารให้มีประสิทธิภาพซึ่งขอเป็นแบบรอยัล สแตนด์ดาร์ด คือ สายอากาศที่สามารถใช้กับเครื่องวิทยุ 42 เครื่อง (ปกติ1 สาย- 1เครื่อง)
และให้ผิดพลาดได้เพียง 1 เปอร์เซนต์ ( จากปกติ 10%) ไม่ได้เพื่อตัวเอง
“ เพราะเราต้องการไปช่วยคนในชนบท “ และ “เพราะประชาชน รอไม่ได้ ”
พื้นดินแห้งแล้งรึ ก็ไม่ได้ใช้ไม้เสกให้อุดมสมบูรณ์ได้ในพริบตาที่ไหน
แต่ใช้สมองใช้ความวิริยะอุตสาหะ ใช้การทดลอง
ใช้สติปัญญาหาวิธีแก้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ให้แก้ให้ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน
ปัญหาความเป็นอยู่ ปัญหาน้ำมาก ปัญหาน้ำน้อย น้ำท่วม
ทั้งชนบททั้งเมืองกรุงก็ไม่เคยละเลย
ทั้งหมดนี้คือวิธีทำงานของซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ทำด้วยใจ สร้างปาฎิหารย์ด้วยสมอง และสองมือ
กับภาระการดูแลความสุข 24 ชม. ของราษฎร
กับคำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าที่จะไม่ทิ้งประชาชน
คงกล่าวได้ว่า คงจะมีน้อยคนนักหรืออาจแทบหาไม่ได้
ที่จะทำได้อย่างท่านในเงื่อนไขเดียวกัน
การเอาชนะกิเลสแห่งความหรูหรา สะดวกสบายที่จัดสรรประโคมให้อยู่ตรงหน้า
เพิกเฉยไม่ยินดียินร้าย ไม่หลงใหลกับทรัพย์สินศฤงคาร ลาภยศขั้นสูงสุด
หากแต่กลับใช้สถานะที่ท่านมีเพื่อยังประโชน์แก่คนหมู่มาก
ความรักอันมหัศจรรย์ของในหลวงที่มีต่อ
พสกนิกร นั้นยิ่งใหญ่เหลือเกินและประเมิณค่ามิได้
อันทำให้ความสูญเสียครั้งสำคัญนี้
สั่นสะเทือนถึงจิตวิญญานภายในของคนจำนวนมาก
และเมื่อความเศร้าของเราตกตะกอน
เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า
ความรักอันยิ่งใหญ่นี้จะไม่กลายเป็นเพียงอดีต
เพราะความตื่นรู้ใหม่ที่ถูกปลุกขึ้นมาในจิตสำนึก
จะส่งผลให้เราเพียรพยายามทำความดีตามแบบ
อย่างที่ท่านทำ
ใครถนัดอย่างไรทำอย่างนั้น ช่วยกันคนละไม้คนละมือ
มาร่วมขยายวงกลมความรัก ความเมตตารอบตัวเราให้กว้างขึ้น
เพื่อวงกลมความรักของแต่ละคนจะได้มาชนกัน
สังคมของเราจะได้สวยงาม
อย่างที่พระองค์คาดหวังจะเห็น
และเพียรทำมาตลอดช่วงชีวิต
เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักนิรันดร์ของ
ในหลวงรัชกาลที่9และพสกนิกรของท่าน
ที่จะมีให้กันตลอดไป
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันศุกร์ที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑
"การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญ
และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย
เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม
ผลดีที่ทำจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และยิ่งทำมากเข้า นานเข้า ยั่งยืนเข้า
ผลดีก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น และแผ่ขยายกว้างออกไปทุกที
คนที่ไม่เคยทำดีเพราะเขาไม่เคยเห็นผล ก็จะได้เห็นและหันเข้ามาตามอย่าง
หลักประกันสำคัญในการทำดีจึงอยู่ที่ว่า แต่ละคนต้องทำใจให้มั่นคง
ไม่หวั่นไหวกับสิ่งแวดล้อม ที่เห็นอยู่ ทราบอยู่ มากเกินไป จนเกิดความท้อถอย
เมื่อใจมั่นคงแล้ว ก็ขอให้ตั้งอกตั้งใจ สร้างนิมิตและค่านิยมใหม่ขึ้นสำหรับตัวเอง
ตามที่พิจารณาเห็นดีด้วยเหตุผลอันถูกต้องเที่ยงตรงแล้ว
แล้วมุ่งหน้าปฏิบัติดำเนินไปให้เต็มกำลังจนบรรลุผลสำเร็จ
ในที่สุด ความดีความเจริญที่ปรารถนาก็จะเกิดทวีขึ้น
และจะเอาชนะความเสื่อมทรามต่าง ๆ ได้ไม่นานเกินรอ..."

Comments